คำถามที่พบบ่อย
เกี่ยวกับบริการของเรา
อาจจะใช้เวลา 30 - 45 นาที ขึ้นอยู่กับว่าเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิง เคลื่อนที่ลงมาตามท่อนำไข่หรือไม่ หากไข่ของฝ่ายหญิงยังไม่ตกและเคลื่อนลงมา ตัวอสุจิก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ภายในร่างกายได้ 72 ชั่วโมง
ตามรายงานทางการแพทย์ อัตราความสำเร็จต่อครั้งจะอยู่ระหว่าง 7 - 25% ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย โดยอัตราความสำเร็จจะลดลงตามอายุของฝ่ายหญิง เนื่องจากคุณภาพของไข่ ส่วนคุณภาพของอสุจิ ก็ส่งผลต่ออัตราความสำเร็จในการทำ IUI เช่นกัน
โอกาสของการตั้งครรภ์แฝดอาจเกิดขึ้นได้เมื่อมีการใช้ยาในระหว่างรอบการตกไข่ แต่การควบคุมและตรวจสอบปริมาณยาโดยผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้มีไข่เพียงใบเดียวที่เจริญเติบโตเต็มที่ และลดโอกาสการตั้งครรภ์แฝดลงได้
โดยปกติแล้วการทำ IVF สำหรับการย้ายตัวอ่อนรอบสด จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน นับตั้งแต่คุณได้เริ่มฉีดกระตุ้นฮอร์โมน FSH
หากคุณเลือกทดสอบทางพันธุกรรมของตัวอ่อนเพิ่มเติม ต้องใช้เวลาเพิ่มอีก 2 สัปดาห์ นับจากการนำตัวอ่อนไปส่งทดสอบ และเมื่อทราบผลแล้วอาจต้องใช้เวลาอีก 3 - 6 สัปดาห์ ในการเตรียมพร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง ซึ่งเวลาดังกล่าวขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของคุณ ตอบสนองต่อยาที่ได้รับไปมากน้อยแค่ไหน
การฉีดฮอร์โมนเข้าร่างกายในระหว่างการทำ IVF เพื่อให้ร่างกายผลิตไข่ได้มากขึ้น อาจส่งผลกระทบบางอย่างต่อร่างกาย เช่น ปวดศีรษะเล็กน้อย มีอาการร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน เหนื่อยล้าง่าย หรือท้องอืด เป็นต้น ในบางรายอาจพบกลุ่มอาการภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS) แต่ก็พบได้ไม่บ่อยนัก
เป็นคำถามที่หลายๆ คู่มักสงสัยเกี่ยวกับอัตราความสำเร็จในการทำ IVF ซึ่งจริงๆ แล้วอัตราความสำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลของแต่ละคน เนื่องจากภาวะเจริญพันธุ์ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกัน
ตามรายงานจากทั่วโลกแล้ว สำหรับผู้หญิงในทุกๆ วัน อัตราความสำเร็จของการทำ IVF นั้นอยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งโอกาสในการประสบความสำเร็จ จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ต่างๆ เช่น การทดสอบทางพันธุกรรม หรือการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาภาวะมีบุตรยาก